หลายคนเมื่อถึงวัยขึ้นเลข 3 กว่า ใบหน้าจะเริ่มไม่เหมือนเดิมเมื่อเทียบกับตอนวัยรุ่น หรือตอนยี่สิบกว่าๆ และอาจจะสงสัยว่า ทำไมใบหน้าเริ่มมีรอยย้น เหี่ยว หย่อนคล้อย เหนียงเริ่มมา หนังตาตก สาเหตุนั้นก็เพราะ ระบบเซลล์ผิว และคอลลาเจน เริ่มเสื่อมไปตามตามอายุของเรานั้นเองค่ะ

การทำ Ulthera และ HIFU เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในการยกผิวหน้า หนังตา ให้ลิฟท์ขึ้น ตามคำแนะนำของแพทย์

แต่จะเลือกทำอะไรดี วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจให้ค่ะ 

Ulthera และ HIFU ทั้งสองมีความเหมือนคือ

• เป็นการใช้คลื่นอัลตราซาวด์ที่ลงถึงระดับชั้นผิว SMAS เพื่อกระตุ้นให้ผิวกระชับและลดหย่อนคล้อย
• ให้ผลยกกระชับ และกระตุ้นคอลลาเจน ใต้ผิว
• ไม่ใช่การผ่าตัด หลังทำไม่มีดาวน์ไทม์ ไม่ต้องรอให้แผลหาย สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ทันที
• เห็นผลดีที่สุดหลังทำประมาณ 2 – 3 เดือน

Ulthera และ HIFU แตกต่างอยู่ที่ระดับพลังงาน และความรู้สึกขณะทำ และราคา

• ระดับพลังงานของ Ulthera จะสูงกว่า ให้ผลได้ชัดเจนกว่า โดยปกติพลังงานความร้อนที่เข้าไปในผิวชั้น SMAS ของการทำ Ulthera จะอยู่ที่ 65 c แต่ HIFU จะอยู่ที่ประมาณ 60 c เท่านั้น ซึ่งมีผลทำให้การทำ Ulthera รู้สึกใต้ผิวได้มากกว่าการทำ HIFU 
• เครื่อง Ulthera เป็นเครื่องที่ผ่านมาตรฐาน UF-FDA หรือ อย. ของอเมริกา ซึ่ง มีผลการวิจัยรองรับมากมาย และตัวเครื่องยังสามารถตรวจสอบได้ทันที (Real Time) ว่า คลื่นพลังงานที่ยิงลงไปนั้น ลงไปถึงชั้น SMAS จริงๆ โดยเครื่อง HIFU จะต้องใช้การคาดคะเน และประสบการณ์ของแพทย์ผู้ทำ ผลที่ได้จากการทำ HIFU จึงขึ้นอยู่กับยี่ห่อของเครื่อง และแพทย์ที่ทำให้ โดยทั่วไปเครื่อง HIFU จะประกอบนำเข้ามาจากเกาหลี หรือจากจีน
• ที่ Doctor Yada Clinic เครื่อง HIFU จะมีหัวที่สามารถส่งพลังงานไปได้จนถึงชั้นไขมัน ทำให้เครื่อง HIFU ที่ Doctor Yada Clinic สามารถสลายไขมันบนใบหน้าและตัวได้ โดยที่เครื่อง Ulthera ไม่สามารถทำได้ ดังนั้นสำหรับคนที่มีไขมันใต้ผิวหนา ไม่สามารถทำ Ulthera ได้ เพราะเครื่อง Ulthera ไม่สามารถส่งพลังงานไปถึงชั้น SMAS ได้นั้นเอง
• ผลหลังทำ Ulthera จะอยู่ได้นานประมาณ 1 ถึง 1 ปีครึ่ง หรือมากสุดได้ถึง 2 ปี โดย HIFU จะอยู่ได้นานประมาณ 6 ถึง 8 เดือน โดยจะไม่เกิน 1 ปี    
• ราคาการทำ Ulthera จะสูงกว่าการทำ HIFU

โดยรวมสามารถสรุปได้ว่าเครื่อง Ulthera จะเป็นพี่ใหญ่ และ HIFU เป็นระดับน้องๆ ลงมา ผลของ HIFU ก็จะไม่ยืนยาวเท่า Ulthera เหมาะกับคนไม่ค่อยมีปัญหาหนักมาก สามารถมาทำซ้ำได้บ่อยๆ ทุก 4 – 6 เดือน แต่ถ้าสำหรับคนที่ปัญหาเยอะหน่อย รับเรื่องความเจ็บได้ (แต่ก็เจ็บไม่มาก) สู้ราคาไหว ทุ่มทุนครั้งเดียว และได้ผลระยะยาว ไม่ต้องมาทำบ่อยๆ ตัว Ulthera ก็จะตอบโจทย์ได้มากกว่าค่ะ

สนใจ #ปรับรูปหน้าโดยไม่ศัลยกรรม ส่งรูปปรึกษาได้เลยค่ะ  https://line.me/R/ti/p/%40doctoryadaclinic

Doctor Yada Clinic, PATTAYA LASER EXPERT!
Facial design & Innovative LASER.

• แชร์บน Facebook
• แชร์บน Twitter
• แชร์ขึ้น Line