สิว (Acne) จัดเป็นโรคผิวหนังที่พบได้บ่อย ความเข้าใจของคนส่วนใหญ่เกี่ยวกับสิวมักจะเป็นเรื่องของความสวยงาม ทำให้หลายคนพยายามซื้อยามารักษาด้วยตนเอง การใช้ยาโดยไม่จำเป็น หรือไม่เหมาะสมกับอาการ ก็จะเป็นอันตรายต่อร่างกายได้
ยาที่ใช้ในการรักษาสิวมีหลายชนิด แต่ที่มีความนิยมใช้กันเป็นจำนวนมาก แต่มีใช้อย่างผิดวิธี คือ ยาในกลุ่มกรดวิตามินเอ ชนิดรับประทาน ที่มีชื่อสามัญทางยาว่า ไอโสเตรติโนอิน (Isotretinoin) หรือ เรติโน อิก แอซิด (Retinoic acid) ยาชนิดนี้มีประสิทธิภาพในการรักษาสิวที่ดี แต่ผลข้างเคียงนั้นอันตรายและรุนแรง ทำให้ต้องมีการควบคุมการใช้จากแพทย์ ดังนั้น isotretinoin ชนิดรับประทาน จึงถูกจัดเป็นยาควบคุมพิเศษ
Isotretinoin คืออะไร?
Isotretinoin เป็นอนุพันธุ์ของกรดวิตามินเอ ที่จะใช้ในกรณีที่มีข้อบ่งชี้ในการรักษาสิวอาการรุนแรง ไม่สามารถควบคุมอาการได้จากการรักษาอื่นๆ หรือสิวชนิดที่มีแผลเป็น การออกฤทธิ์ของ Isotretinoin คือ ยาจะทำหน้าที่ยับยั้งสาเหตุของการเกิดสิว เช่น ยับยั้งการทำงานของต่อมไขมัน ทำให้ลดการผลิตสารที่เป็นไขมัน (Sebum) ลดปริมาณเชื้อแบคทีเรีย Propionibacterium Acnes (P. Acnes) ลดการอักเสบของสิว และยับยั้งการสร้างคอมีโดน (Comedone) การรับประทาน Isotretinoin จะมีผลทำให้ผิวหนังแห้ง หลุดลอก และบางลง จนไม่สามารถทนต่อการรักษาสิววิธีอื่นได้ นอกจากนี้เมื่อใช้ยา Isotretinoin ร่วมกับยา Tetracycline อาจเสี่ยงต่อการเกิดความดันในสมองสูงขึ้นโดยไม่มีสาเหตุ (Idiopathic intracranial hypertension)
ข้อห้ามและข้อควรระวังในการใช้ยา Isotretinoin
– ยา Isotretinoin สามารถทำให้เด็กทารกในครรภ์พิการแต่กำเนิดได้ และเด็กทารกจะมีความเสี่ยงสูงที่จะพบความบกพร่องทางสมองและเชาว์ปัญญาได้เช่นกัน ดังนั้น ผู้ที่ได้รับยา Isotretinoin จะต้องคุมกำเนิดก่อน และคุมกำเนิดตลอดระยะเวลาที่ใช้ยาตัวนี้ในการรักษา และต้องหยุดยาล่วงหน้าอย่างน้อย 3 เดือน ถึง 1 ปี ก่อนจึงจะตั้งครรภ์
– หญิงให้นมบุตรไม่ควรรับประทาน
– ผู้รับประทานยา Isotretinoin ไม่สามารถบริจาคเลือดได้ ในระหว่างที่รับประทานยา และจนกระทั่งหลังจากหยุดรับประทานยาไปแล้ว 1 เดือน
– การรับประทานยา Isotretinoin อาจทำให้ผิวหนังแห้ง ลอก และไวต่อแสง ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการถูกแสงแดด นอกจากนี้อาจมีอาการตาแห้ง ปาก คอแห้ง ได้
– การรับประทานยา Isotretinoin อาจทำให้เกิดความบกพร่องในการได้ยิน หรือเกิดเสียงหวีดในหูได้
– หลีกเลี่ยงการรับประทานยา Isotretinoin ร่วมกับวิตามิน A, สมุนไพรชื่อ St. John’s Wort และยา Tetracycline
– Isotretinoin มีความเป็นพิษต่อตับ (Hepatotoxicity) ดังนั้นควรเข้ารับการตรวจค่าการทำงานของตับอยู่เสมอ หากมีอาการตัวเหลือง ตาเหลือง ควรหยุดยาและปรึกษาแพทย์โดยด่วน
– การรับประทานยา Isotretinoin อาจทำให้เกิดภาวะไขมันในเลือดสูง (Hyperlipidemia) โดยเฉพาะไตรกลีเซอไรด์ (Triglyceride) ดังนั้นควรมีการตรวจระดับไขมันในเลือดอยู่เสมอ ในระหว่างที่รับประทานยา และหากไม่สามารถควบคุมระดับไขมันที่สูงขึ้นได้ ควรหยุดรับประทานยาและพบแพทย์โดยด่วน
– การรับประทานยา Isotretinoin อาจทำให้เกิด Inflammatory Bowel Disease (IBD), ปวดกล้ามเนื้อ (Arthralgia), กล้ามเนื้อถูกทำลายอย่างรุนแรง (Rhabdomyolysis) ได้
– การรับประทานยา Isotretinoin ติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน อาจทำให้ความหนาแน่นกระดูกลดลง และอาจทำให้เกิดภาวะกระดูกนุ่ม รวมถึงภาวะกระดูกพรุน
– พบการรายงานเกี่ยวกับความผิดปกติทางจิต เช่น ซึมเศร้า จิตเภท มีพฤติกรรมรุนแรง ก้าวร้าว มีความคิดหรือมีความพยายามในการฆ่าตัวตาย จากการรับประทานยา Isotretinoin ดังนั้น ผู้รับประทานยาควรได้รับการประเมินความผิดปกติทางด้านจิตใจก่อนการรับประทานยา และผู้รับประทานยาควรแจ้งแพทย์ทันทีเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงทาง อารมณ์หรือพฤติกรรมที่ต่างไปจากเดิม
ข้อห้ามใช้และข้อควรระวังของยา Isotretinoin มีเป็นจำนวนมาก และบางอย่างจำเป็นต้องเข้ารับการตรวจทางห้องปฏิบัติการอย่างสม่ำเสมอ เช่น การทำงานของตับ หรือระดับไขมันในเลือด ดังนั้นการซื้อยาจากร้านขายยามาใช้เองโดยมิได้อยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ รวมถึงการได้รับยาจากคลินิกเสริมความงามที่ไม่ได้มีการตรวจร่างกาย ซักประวัติ และสั่งจ่ายยาอย่างเหมาะสม อาจทำให้ผู้ที่รับประทานยาได้รับอันตรายจากยาจนถึงขั้นเสียชีวิตได้
Doctor Yada Clinic พัทยา ชลบุรี
เน้นการรักษาสิวแบบผสมผสานโดยไม่จำเป็นต้องทานยา
สอบถาม ปรึกษา การรักษาสิว ได้ที่ https://line.me/R/ti/p/%40doctoryadaclinic
ผลลัพธ์ที่ได้ ขึ้นอยู่แต่ละบุคคล
หรือ โทร: 0618407007
Doctor Yada Clinic, PATTAYA LASER EXPERT!
Facial design & Innovative LASER.
“You dream it, we do it!”
ปรับรูปหน้าโดยไม่ศัลยกรรม
เปิดบริการทุกวัน 12.00-22.00 น.
ใต้มามั่น แมนชั่น พัทยากลางซอย10 (ซอยร้านอาหารแดงดำ)
Inbox : https://www.facebook.com/doctorYada/