ประเภท ของหลุมสิว และการรักษา

August 12, 2018

หลุมสิว

เป็นปัญหาผิวพรรณที่เป็นที่กังวลใจของคนหลายๆคน ที่ปล่อยให้สิวอุดตันอักเสบลุกลามกินเนื้อลึกลงไปถึงผิวชั้นใน จนทำให้เนื้อผิวหายไปกลายเป็นหลุมเป็นบ่อ หรือเกิดจากการที่พยายามบีบสิวอย่างผิดวิธี ไม่สะอาด จนทำให้สิวธรรมดา ๆ กลายเป็นสิวอักเสบรุนแรงหนักกว่าเดิม

การป้องกันที่ดีที่สุด คือ การพยายามป้องกันไม่ให้เกิดสิวอักเสบ หรือถ้าเป็นแล้วก็ต้องรีบหาทางรักษาที่ถูกต้อง เพื่อทำให้สิวอักเสบยุบเร็วขึ้นโดยไม่ทิ้งร่องรอยเอาไว้ แต่สำหรับคนที่เกิดเป็นหลุมแล้ว ด้วยเทคนิคทางการแพทย์ในปัจจุบันก็สามารถรักษาหลุมสิวได้แล้ว แม้ว่าจะไม่สามารถทำให้ผิวเติมเต็มหลุมได้เหมือนเดิม 100% แต่ก็สามารถทำให้เซลล์เนื้อเยื่อใหม่ฟื้นฟูและเติมเต็มหลุมได้ถึง 70-80% เลยทีเดียว

ชนิดของหลุมสิว

หลุมสิวชนิด Rolling scar (ระดับทั่วไป) หลุมสิวระดับนี้จะมีลักษณะเป็นหลุมสิวแบบตื้น ๆ เป็นแอ่งเว้า กินพื้นที่ส่วนบนของผิวเพียงเล็กน้อย ที่มักจะเกิดจากการแกะเกาสิวที่อยู่ในระดับที่ไม่ลึกมาก และทำการรักษาได้ง่ายกว่าระดับอื่น

ชนิด Box scar (ระดับรุนแรงปานกลาง) หลุมสิวระดับนี้จะมีลักษณะเป็นบ่อ มีขอบชัดเจนและมีขอบเขตกว้าง แต่จะมีความตื้นชั้นผิวเท่านั้น ไม่ได้กินไปจนถึงชั้นรูขุมขน หลุมสิวระดับนี้ หลังการรักษารอยหลุมแล้ว อาจจะเหลือร่องรอยจุดด่างดำอยู่บ้าง

ชนิด Ice pick scar (ระดับรุนแรงที่สุด) หลุมสิวระดับนี้จะเป็นหลุมลึก มีปากแคบ รักษาได้ยาก เพราะแนวหลุมเป็นไปในทางลึก ต้องใช้เวลานานในการรักษา

วิธีรักษาหลุมสิว

การรักษาด้วยเครื่องมือแพทย์ เป็นการรักษาที่เหมาะกับผู้ที่มีหลุมสิวขนาดใหญ่และลึก แบบ Ice pick scar และ Box scar ซึ่งเป็นการรักษาภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ร่วมกับการทายาและครีมบำรุงร่วมด้วย ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือการเลือกสถานเสริมความงาม คุณต้องมั่นในว่าสถานที่ที่คุณเลือกนั้นใช้วิธีการที่ อย. รับรอง และมีการให้บริการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจริง ๆ

การทำ Subcision (เลาะพังผืดใต้หลุมสิว) วิธีนี้แพทย์จะใช้เข็มลักษณะพิเศษที่มีคุณสมบัติในการตัดผิวพังผืด โดยแพทย์จะสอดเข็มลงไปใต้ผิวหนัง เพื่อทำการตัดพังผืดที่ยึดผิวด้านบนที่เป็นหลุมให้ขาดออกจากหนังที่ยึดอยู่ด้านล่าง หลุมสิวก็จะตื้นขึ้น เหมาะสำหรับทำควบคู่กับการรักษาด้วยเครื่องเลเซอร์อื่นๆ สำหรับปัญหาหลุมสิวที่ลึกมากๆ
ฉีดฟิลเลอร์เติมหลุมสิว เป็นอีกวิธีที่เหมาะกับการรักษาหลุมสิวระดับทั่วไปในระดับตื้นถึงลึกปานกลาง ฟิลเลอร์ (Filler) หรือ “สารเติมเต็ม” ส่วนใหญ่แล้วการรักษาด้วยวิธีนี้จะได้ผลประมาณ 60% – 70% เลยทีเดียว เพราะเป็นการฉีดสารเติมเต็มเข้าไปเพื่อเติมร่องหลุมในทันที ไม่จำเป็นต้องรอให้ร่างกายสร้างเนื้อขึ้นมาเอง
การใช้คลื่นวิทยุ (Radiofrequency – RF) เป็นการส่งพลังงานเข้าไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนของร่างกาย เครื่องมือที่ใช้ก็มีหลายแบบด้วยกัน โดยทั่วไปเครื่องนี้สามารถให้ผลในการรักษาหลุมสิวได้ดี มีผลข้างเคียงน้อย
การทำ IPL สามารถใช้ได้ดีกับหลุมสิวระดับทั่วไป (Rolling scar) ถ้านำไปใช้กับหลุมสิวแบบอื่นอาจเห็นผลช้า โดย IPL จะเป็นการใช้คลื่นแสงความเข้มข้นสูง เพื่อเข้าไปกระตุ้นคอลลาเจนในผิวหนัง ให้เติมเต็มผิวหนังขึ้นมา โดยระยะของแสงจะต้องมีการปรับให้เหมาะสมกับสภาพปัญหาผิวของแต่ละบุคคล ถ้าหากการปรับนี้ทำโดยผู้ไม่มีความเชี่ยวชาญโดยตรง อาจทำให้ผิวไหม้ได้
เลเซอร์หลุมสิว เป็นอีกวิธีที่ได้รับความนิยมมาก ซึ่งการทำเลเซอร์นั้นสามารถทำให้คอลลาเจนใต้ผิวถูกกระตุ้นให้สร้างตัวมากขึ้นเพื่อช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ เช่น เลเซอร์ Q Switched ND Yag ซึ่งแสงเลเซอร์จะเข้มข้นกว่า IPL จึงจำเป็นต้องทายาชาช่วย หลังทำอาจจมีอาการแดงได้ และต้องถนอมผิวหน้าป้องกันแสงแดดสักระยะเวลานึง
เลเซอร์ Fractional CO2 เป็นอีกเลเซอร์ที่ให้ผลดี มีความรุนแรงที่สุด เป็นตัวช่วยให้เกิดการกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ และสร้างคอลลาเจนใต้ผิว ผลของเลเซอร์ชนิดนี้สามารถตัดพังผืดแบบแนวดิ่งได้ดีอีกด้วย ภายหลังทำใบหน้าจะตกสะเก็ดประมาณ 1 – 2 อาทิตย์ ก่อนที่ผิวจะค่อย ๆ เริ่มสร้างตัวขึ้นใหม่อย่างธรรมชาติ ได้ผลดีในการรักษาหลุมสิวเกือบ ๆ 70% – 80% และเนื่องจากเป็นการสร้างผิวใหม่ ปัญหาฝ้า กระ เดิม ก็จะดีขึ้นอีกด้วย

ทั้งนี้ถ้ายังมีปัญหาเรื่องสิวอยู่ สิวอักเสบยังไม่หาย ก็ต้องทำการรักษาปัญหาสิวให้หายเสียก่อน เพราะการใช้เลเซอร์ หรือยาบางตัว จะเป็นการกระตุ้นให้ ปัญหาสิวลุกลาม เห่อ เพิ่มมากขึ้น ได้อีกด้วย

สนใจ รักษาปัญหาสิว และหลุมสิว ปรึกษาได้ที่ line นี้เลยค่าา https://line.me/R/ti/p/%40doctoryadaclinic